Final Fantasy ภาคนี้ ถือเป็นภาคหลักลำดับที่ 13 ในซีรียส์ และถือเป็น โปรเจค แรก ใน ชื่อโปรเจคอันสวยหรู Fabula Nova Crystallis ธีมของเกม จึงมุ่งเน้นไปที่ เรื่องราวของคริสตัล สอดแทรกเข้ามาในเนื้อเรื่อง ผสมผสานกับแฟนตาซี กึ่งๆ Sci-fi ประกอบกับกราฟฟิค อันสวยหรู สำหรับเกมนี้ นั้น เป็นเกมแรกสุด ของ Square Enix บนเครื่อง PlayStation 3 และถือเป็น Final Fantasy ภาคแรก บนเครื่องระดับ Next Gen. กราฟฟิคของเกมทำออกมาได้สวยงามในระดับที่สูงมากของเกมทางฝั่งญี่ปุ่นทั้งหมด เรียกได้ว่า ตอนนี้เป็น J-RPG ที่สวยที่สุดในโลก โดยเฉพาะเรื่องโมชั่น ของตัวละครที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก การเคลื่อนไหวสุดยอดเกินคำบรรยาย Cg มูฟวี่ คุณภาพสูง + กับคัทซีน หลากหลาย ทำมาออกค่อนข้างตื่นเต้น และมีจำนวนค่อนข้างมาก แสดงถึงความอลังการในการสร้าง ถึงแม้กราฟฟิคโดยรวมโดยเฉพาะเทกเจอร์ของฉากที่แปะๆมาจะทำมาไม่ค่อยดีนัก แต่องค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ทำออกมาได้สวยงาม มีการเล่นแสงและเงากับฉากต่างๆ ได้อย่างกลมกลืน กลบส่วนเสียซะจนแทบมองไม่เห็น โมเดลตัวละครออกมาแบบมาได้สวยงาม โดยเฉพาะ รูปหน้าของตัวละคร เรียกได้ว่าแทบจะแยกกันไม่ออกระหว่าง CG prerender กับเรียลไทม์คัทซีนด้วยซ้ำ ที่แย่หน่อยก็จะเป็นส่วนมือของตัวละคร เหลี่ยมมาก
ระบบต่อสู้ในภาคนี้ ได้ถูกออกแบบโดย โมโตมุ โทริยามะ ซึ่งมีผลงานกำกับ เก่าอย่าง FF10 , FF10-2 , FF12RW . . . . โดยได้นำระบบ ATB ซึ่งเป็นระบบหลักๆของ FF ในยุคหลังๆที่ผ่านมา มาทำการประยุกต์เป็นแบบใหม่ โดยมีลักษณะแบ่งเกจ ATB ออกเป็นช่องๆ ด้วยกัน ดังนั้นระบบต่อสู้ในภาคนี้ จะขึ้นอยู่กับเวลาเป็นหลัก เนื่องจากไม่มี ระบบ MP ทุกอย่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี ท่าพิเศษ เวทย์ต่างๆทุกชนิด จะถูกออกแบบมาให้ใช้กับเกจ ATB แบบใหม่ ที่ใช้เรื่องเวลาเป็นหลัก ดังนั้น วิธีการเล่น จึงไม่เหมือนกับภาคก่อนๆที่กดวงกลม รัวๆก็ ชนะศัตรูได้ระบบ Optima Change หรือระบบ เปลี่ยน A.I. ไปมาให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งเป็น ระบบที่ออกแบบมาให้ใช้กับ ATB แบบใหม่ได้อย่างลงตัว ถ้าจะเปรียบเทียบกับภาคเก่าๆ ก็จะใกล้เคียงกับความถนัดในสายอาชีพของตัวละคร แต่ละตัว ซึ่ง ตัวละครแต่ละตัวก็จะมีสกิลที่แตกต่างกัน โดยระบบการพัฒนาตัวละครในภาคนี้จะไม่ได้ใช้ค่า exp แต่จะใช้ค่า Crystalium Point (คริสตาเลี่ยม พอยต์) แทน ซึ่งก็ไม่รู้จะเปลี่ยนชื่อให้เข้าใจยากทำไม เพราะมันจะใกล้เคียงกับค่าของ exp มาก โดย เป็นการสะสม cp เพื่อไป เรียน สกิล จากสายความถนัดของ Optima แต่ละตัวละคร ซึ่ง จะส่งผลให้ตัวละครแต่ละตัวมีสกิลที่แตกต่างกัน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ระบบตรงส่วนนี้ ทำออกมาได้ดีมาก โดยเมื่อจับทุกอย่างมารวมเข้าด้วยกัน ระบบต่อสู้ของภาคนี้จึงสามารถ สร้างความสนุกแบบสุดยอด ประกอบกับ ATB ความเร็วสูงที่สามารถสร้างความตื่นเต้น พลิกแพลงได้ หลากหลาย มนต์อสูร ที่ สามารถนำมาใช้ ได้อย่างมีประโยชน์กว่าภาคก่อนๆ รวมไปถึง สกิลไร้ประโยชน์ ต่างๆทั้งหลายแหล่ ได้ถูกตัดทิ้งไป เหลือแต่เฉพาะสกิลที่มีประโยชน์จริงๆ เท่านั้นการโหลดทำได้รวดเร็วแม้ไม่ได้อินสทอล ระหว่างการตัดฉากต่อสู้กับตอนสู้ โหลดค่อนข้างเร็วมาก จนแทบไม่รู้สึกว่าโหลด ทำให้ดูต่อเนื่องมากระหว่างฉากแผนที่ และฉากต่อสู้ เอฟเฟคในฉากต่อสู้ สวยงามมาก ไม่ว่าจะเป็นเวทย์ หรือ สกิลต่างๆ ที่ทำออกมาได้อลังการ งานสร้าง เฟรมเรต ไม่มีตกให้เห็น เลยในฉากต่อสู้ ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถทำได้ขนาดนี้ ตรงส่วนนี้บอกได้เลยครับว่า สุดยอดมากๆ
สำหรับเนื้อเรื่องของเกม ปูทางมาได้ค่อนข้างดี มีความสัมพันธ์และที่มาที่ไป ของแต่ละตัวละครอย่างลึกซึ้ง มี log รายละเอียดต่างๆให้อ่าน จุดเสีย ร้ายแรง คือ ช่วงแรก - ท้าย เกม ค่อนข้างจะดำเนินเนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง ซึ่ง chapter กลางๆ ค่อนข้างออกไปทางน่าเบื่อซะมากกว่า ดันเจี้ยนยาว แต่ไม่มีอะไรให้สำรวจ เดินเป็นเส้นตรงตลอด หนีไปไหนก็ไม่ได้ การต่อสู้ 1 ครั้ง Hp จะถูกฟื้นขึ้นมาจนเต็ม เงินก็ไม่ได้ ต้องเอาของไปขายอย่างเดียว ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนเล่น RPG อยู่ เหมือนเกมแอคชั่นลุยด่าน ที่ตอนต่อสู้ มีระบบของ RPG ซะมากกว่า ที่แย่ไปกว่านั้นคือไม่สามารถสำรวจรอบโลกได้อีกต่อไป
ตอนท้ายของเกม จะเหลือสถานที่ที่ไปได้ไม่กี่ที่ การเดินทางเพื่อค้นหาความลับ จึงไม่มีอีกต่อไป เหลือแต่มิสชั่น ซึ่งออกไปแนวไร้สาระซะมากกว่า เดินตรงแหน่วซ้ำไปซ้ำมา ปราบ บอส แล้วก็จบ ... มอนสเตอร์ออกแบบมาค่อนข้างน้อย ทั้งเกมมีอยู่ไม่กี่ตัว ที่เหลือก็จะเป็นหน้าตาเดิมๆเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสี เรือเหาะ ก็ไม่มี เล่นมาทั้งเกม เจออยู่ 2 เมือง NPC ให้คุยก็ไม่มี ร้านขายของไปอยู่ในจุดเซฟทั้งหมด ระบบพัฒนาอาวุธซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์ เพราะของที่ใช้เพิ่มเลเวลอาวุธค่อนข้างหายาก และ แพงมาก เงินหาก็หายาก ตอนท้ายของเกม ไม่มีเมืองให้สำรวจเลย แม้แต่เมืองเดียว ฉากจบ ก็ไม่ค่อยน่าประทับเท่าที่ควร หลายๆอย่างดูขาดๆหายๆไป ไม่เหมือนภาคก่อนๆ ถือว่าเป็น Final Fantasy ภาคแรกที่โลกค่อนข้างแคบมาก แทบจะไปไหนไม่ได้เลย เมื่อลองมาพิจารณา ถึงระยะเวลา 3 ปี ที่ใช้พัฒนาไปแล้ว น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ... ดันไปใส่รายละเอียดในส่วน CG / คัทซีน ซะเกือบหมด จน ขาดความเป็น RPG ที่ควรจะเป็นไปสำหรับภาคนี้ ถือว่า ยังไม่ถึงขั้นแย่ซะทีเดียว เนื่องจากได้ระบบต่อสู้ ที่สนุกสนาน ช่วย เอาไว้ ประกอบกับเนื้อเรื่องอันยิ่งใหญ่ อลังการ และภาพสวยงามมากสำหรับ เกม RPG ก็ยังถือว่า ทดแทนกันได้ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็สามารถเล่นสนุกไปกับเกมนี้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น